ทำความเข้าใจงานโครงสร้างอาคาร จุดสำคัญไหนบ้างที่ควรตรวจสอบ

ที่ปรึกษางานก่อสร้างเชียงใหม่เป็นผู้ช่วยที่ดีในงานก่อสร้าง เพราะโครงสร้างอาคารถือเป็นหัวใจหลักของอาคารทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นบ้านพักอาศัย อาคารพาณิชย์ หรือโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่ การเข้าใจองค์ประกอบของโครงสร้างอาคารและการตรวจสอบจุดสำคัญต่าง ๆ ช่วยให้มั่นใจได้ว่าอาคารจะมีความแข็งแรง ปลอดภัย และสามารถใช้งานได้ยาวนาน การมีที่ปรึกษาก่อสร้างหรือวิศวกรที่มีความรู้จึงช่วยให้การก่อสร้างและบำรุงรักษาเป็นไปได้อย่างถูกต้อง

โครงสร้างอาคาร จุดไหนบ้างที่ควรตรวจสอบ?

ฐานรากและเสาเข็ม

เป็นจุดที่ที่ปรึกษางานก่อสร้างเชียงใหม่แนะนำอันดับต้น ๆ ในการตรวจสอบโครงสร้างอาคาร เป็นโครงสร้างฐานรากที่อยู่ใต้ผิวดิน ทำหน้าที่รับน้ำหนักและถ่ายน้ำหนักลงไปที่เสาเข็มเพื่อให้สิ่งปลูกสร้างต่าง ๆ สามารถทรงตัวได้ ปัจจุบันนี้นิยมใช้ 3 ประเภทคือ ฐานรากเสาเข็ม ฐานรากแบบแผ่ และฐานรากแบบตอม่อ เป็นส่วนสำคัญที่ควรควรตรวจสอบรอยร้าว การทรุดตัว และการก่อสร้าง ว่าเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดหรือไม่ เช่น การเลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน ตรวจสอบรอยร้าวบริเวณรอยต่อระหว่างเสากับฐานรากว่ามีการแตกร้าวหรือไม่ เพราะอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้อาคารทรุดได้

เสาและคาน

เสาเป็นส่วนประกอบหลักในโครงสร้างอาคารที่ทำหน้าที่รองรับน้ำหนักจากคานและถ่ายเทน้ำหนักไปที่ฐานราก เสาที่เลือกใช้จึงควรมีความแข็งแรงและเหมาะกับงานก่อสร้าง แบ่งออกเป็น 3 ประเภทคือ เสาเหล็ก เสาไม้ และเสาคอนกรีตเสริมเหล็ก ควรตรวจสอบรอยเชื่อมต่อระหว่างเสาและคานว่ามีรอยแตกร้าวหรือไม่ ความสมดุลของโครงสร้าง และความสามารถในการรับน้ำหนัก

โครงหลังคา

ทำหน้าที่รับน้ำหนักและยึดเกาะวัสดุโครงสร้างของเสา คาน และหลังคานให้แข็งแรง แบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ โครงหลังคาเหล็ก เป็นโครงที่แข็งแรงและรองรับน้ำหนักได้ดี แต่เมื่อใช้ไปนาน ๆ จะมีปัญหาเรื่องสนิมผุกร่อนที่ทำให้โครงสร้างอ่อนแอได้ และโครงสร้างไม้เป็นวัสดุที่แข็งแรงและทนทาน แต่มักจะมีปัญหาเรื่องปลวก ควรมีการป้องกันและวิธีกำจัดปลวกอย่างถูกวิธีและหมั่นตรวจสอบอยู่เสมอ

พื้น

ทำหน้าที่รับและกระจายน้ำหนัก แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ พื้นเหล็ก พื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก และพื้นไม้ ควรตรวจสอบรอยร้าวบริเวณพื้นเพราะหากมีรอยร้าวลึกอาจส่งผลต่อโครงสร้าง ตรวจสอบการทรุดตัวของพื้น หากพื้นไม่สม่ำเสมอหรือแอ่นผิดปกติอาจเกิดปัญหาที่ชั้นใต้ดิน

การดูแลและตรวจสอบโครงสร้างอาคาร

ควรตรวจสอบประจำปี

สำหรับอาคารที่มีอายุ 10 ปีขึ้นไปควรตรวจสอบทุกปีโดยวิศวกรหรือที่ปรึกษางานก่อสร้างเชียงใหม่เพื่อป้องกันการเกิดปัญหาต่าง ๆ เช่น การทรุดตัวของโครงสร้าง ผนังร้าว และควรตรวจสอบโครงสร้างอาคารเชิงลึกทุก 3 - 5 ปี เพื่อความปลอดภัย

ตรวจสอบหลังเกิดเหตุการณ์รุนแรง

เช่น แผ่นดินไหว พายุ หรืออุทกภัย เพราะเหตุการณ์ต่าง ๆ อาจส่งผลกระทบต่อโครงสร้างของอาคารจนก่อให้เกิดความเสียหายได้

ซ่อมแซมและบำรุงรักษา

เพื่อช่วยให้โครงสร้างแข็งแรงและมีอายุการใช้งานที่นาน เช่น ตรวจสอบการทรุดตัวของพื้นดินรอบอาคาร ซ่อมแซมรอยร้าวขนาดเล็กก่อนลุกลามเป็นปัญหาใหญ่ ป้องกันการรั่วซึมของน้ำโดยการเคลือบกันซึมที่หลังคาและผนัง ป้องกันสนิมในเหล็กเสริมโดยใช้ผลิตภัณฑ์ป้องกันสนิมหรือซ่อมแซมบริเวณที่เป็นสนิมแล้ว ซ่อมแซมรอยแตกร้าวและทาสีป้องกันความชื้น

ตรวจสอบการรั่วซึมของหลังคาและรอยต่อระหว่างโครงสร้างหลังคากับผนังอาคาร ตรวจสอบและกำจัดปลวกและเชื้อรา ติดตั้งระบบระบายน้ำที่มีประสิทธิภาพเพื่อป้องกันการชะล้างฐานราก ตรวจสอบระบบกันซึมของดาดฟ้าและหลังคาเป็นระยะ ตรวจสอบสภาพของวัสดุโครงสร้าง เช่น เหล็กหรือไม้ ว่ามีการผุพังหรือสนิมขึ้นหรือไม่ หากพบปัญหาโครงสร้างร้ายแรงควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญทันที

หลีกเลี่ยงการดัดแปลงอาคาร

เพราะอาจทำให้โครงสร้างเกิดปัญหาได้ หลีกเลี่ยงการขุดหรือถมดินใกล้ฐานรากโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญ หลีกเลี่ยงการดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับคำแนะนำจากวิศวกร เช่น การรื้อผนังรับน้ำหนัก การต่อเติมอาคาร การทุบผนัง และอื่น ๆ

ที่ปรึกษางานก่อสร้างเชียงใหม่ถือเป็นผู้ช่วยที่มีบทบาทสำคัญในการช่วยตรวจสอบและการดูแลโครงสร้างอาคารเพื่อความปลอดภัย เพราะโครงสร้างอาคารเป็นองค์ประกอบที่ต้องให้ความสำคัญตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบ การก่อสร้าง ไปจนถึงการดูแลรักษาเพื่อป้องกันความเสียหาย ควรตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอโดยผู้เชี่ยวชาญเพราะวัสดุแต่ละประเภทมีอายุการใช้งานที่ต่างกัน ควรบำรุงรักษาอย่างถูกวิธีเพื่อยืดอายุการใช้งานของอาคารในระยะยาว และสำหรับใครที่กำลังมองหาที่ปรึกษางานก่อสร้างเชียงใหม่หรืออยู่ในจังหวัดใกล้เคียงอย่างเชียงราย ลำพูน ลำปาง ก็สามารถสอบถามรายละเอียดและติดต่อใช้บริการได้ เพราะเป็นผู้เชี่ยวชาญงานก่อสร้างอาคาร สามารถปรึกษาหรือขอคำแนะนำได้