หลายคนอาจคุ้นเคยกับคำว่า BOQ (Bill of Quantities) ในบริบทของการสร้างบ้านหรืออาคารใหม่ และเผลอคิดไปว่าเอกสารนี้จำเป็นเฉพาะงานก่อสร้างตั้งแต่ศูนย์เท่านั้น แต่ในความเป็นจริง งานรีโนเวทบ้านหรืออาคารก็ไม่อาจมองข้าม BOQ ได้เช่นกัน เพราะนี่คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยควบคุมงบประมาณ วางแผนงาน และลดความเสี่ยงจากค่าใช้จ่ายบานปลาย

วันนี้ที่ปรึกษางานก่อสร้างเชียงใหม่จึงขอพาไปทำความเข้าใจว่า BOQ สำหรับงานรีโนเวทแตกต่างจาก BOQ งานสร้างใหม่อย่างไร และเหตุใดเจ้าของบ้านไม่ควรมองข้ามเอกสารฉบับนี้
ที่ปรึกษางานก่อสร้างเชียงใหม่ชวนรู้จัก BOQ หรือ Bill of Quantities คือเอกสารที่ใช้ในงานก่อสร้างเพื่อแสดงรายการปริมาณวัสดุ ค่าแรง และรายละเอียดงานต่าง ๆ ที่ต้องใช้ในการก่อสร้างโครงการหนึ่ง เพื่อให้ทุกฝ่ายมองเห็นภาพรวมของต้นทุนได้ชัดเจนตั้งแต่ก่อนเริ่มลงมือทำงานจริง

ช่วยลดความคลุมเครือในการสื่อสาร มีการระบุรายการงานอย่างชัดเจน เจ้าของบ้านสามารถตรวจสอบได้ว่างานใดรวมอยู่ในสัญญาแล้ว และงานใดที่อาจเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในอนาคต นอกจากนี้ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการเปรียบเทียบราคาจากผู้รับเหมาเจ้าต่าง ๆ
ทำไมรีโนเวทบ้านต้องมี BOQ? ที่ปรึกษางานก่อสร้างเชียงใหม่ขออธิบายให้เข้าใจง่าย ๆ เพราะการรีโนเวทบ้านก็ จัดว่าเป็น งานก่อสร้างงานต่อเติมรูปแบบหนึ่ง จึงจำเป็นต้องมี BOQ เพราะเป็นเอกสารที่ช่วยให้งานก่อสร้างหรืองานรีโนเวทดำเนินไปตามแบบแผนได้ง่ายขึ้น

อีกทั้งการรีโนเวทบ้านแต่ละหลังยังมีความแตกต่างกัน ไม่สามารถใช้ BOQ เหมือนกับบ้านที่สร้างขึ้นใหม่แบบเดียวทั้งโครงการได้ แต่จะต้องเขียนขึ้นใหม่ตามรูปแบบการรีโนเวทบ้านแต่ละหลัง
ที่ปรึกษางานก่อสร้างเชียงใหม่พาไปดูความแตกต่างแรกที่เห็นได้ชัดคือ รายละเอียดในการก่อสร้าง สำหรับการรีโนเวทบ้าน รายละเอียดใน BOQ จะต่างจากบ้านสร้างใหม่หลายข้อ เช่น งานรื้อถอน งานแก้ไขโครงสร้างเดิม เพราะ BOQ งานสร้างใหม่จะไม่มีงานรื้อถอน แต่ BOQ รีโนเวทจะมีงานรื้อถอนที่ต้องระบุรายละเอียดอย่างชัดเจน เช่น งานรื้อผนัง พื้น ฝ้า เพดาน รวมถึงงานป้องกันความเสียหายต่อส่วนที่ยังใช้งานอยู่
BOQ งานสร้างใหม่มักมีงบประมาณค่อนข้างคงที่หากไม่มีการเปลี่ยนแบบกลางคัน แต่ BOQ รีโนเวทมีความยืดหยุ่นสูง เนื่องจากอาจพบปัญหาเพิ่มเติมระหว่างก่อสร้าง เช่น โครงสร้างชำรุดที่ต้องแก้ไขทันที การวาง BOQ ที่ดีจึงควรมีงบสำรอง (Contingency) เพื่อรองรับสถานการณ์เหล่านี้
โดยทั่วไปแล้วงานรีโนเวทมักใช้เวลาการก่อสร้างน้อยกว่าบ้านที่สร้างใหม่ แต่ก็ต้องคำนึงถึงข้อจำกัดของพื้นที่และการอยู่อาศัยจริงด้วย เช่น เจ้าของบ้านยังพักอาศัยอยู่ระหว่างก่อสร้าง ทำให้ต้องแบ่งงานเป็นเฟส และส่งผลต่อค่าแรงและระยะเวลาโดยรวมได้ ส่วนงานสร้างใหม่จะวางลำดับงานได้ชัดเจนตั้งแต่เริ่มต้น
งานก่อสร้างใหม่ โครงสร้างถูกออกแบบและคำนวณตามมาตรฐานตั้งแต่ต้น แต่ในงานรีโนเวทต้องสำรวจสภาพบ้านเดิมอย่างละเอียด เพราะปัญหาหลายอย่างไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก เช่น โครงสร้างภายในที่เสื่อมสภาพ ปลวก ความชื้น หรือการเดินระบบที่ไม่ได้มาตรฐานเดิม BOQ รีโนเวทจึงต้องมีการเผื่อความเสี่ยงและรายการงานสำรองเอาไว้มากกว่า ต่างจาก BOQ งานสร้างใหม่ที่เริ่มจากพื้นที่ว่างหรือแบบก่อสร้างที่กำหนดชัดเจน ทำให้การคำนวณปริมาณงานค่อนข้างคงที่
BOQ งานสร้างใหม่สามารถออกแบบระบบทั้งหมดใหม่ได้ตามแบบ แต่ BOQ รีโนเวทต้องประเมินจากระบบเดิมว่าควรใช้ต่อ ปรับปรุง หรือรื้อเปลี่ยนใหม่ทั้งหมด ค่าใช้จ่ายจึงขึ้นอยู่กับสภาพจริงของบ้าน โดยแต่ละหลังจะมีความแตกต่างกัน
บ้านสร้างใหม่จะมีอิสระในการออกแบบ แต่บ้านที่รีโนเวทจะมีข้อจำกัดในการออกแบบจากโครงสร้างเดิม ซึ่งต่อให้ต้องการปรับเปลี่ยนมากแค่ไหน ก็ต้องอิงโครงสร้างเดิมเป็นหลัก เพื่อให้บ้านสามารถรองรับน้ำหนักได้และเพื่อความปลอดภัย
บ้านที่รีโนเวทจะมีความเสี่ยงสูงกว่าบ้านสร้างใหม่ ปริมาณอาจเปลี่ยนแปลงได้เมื่อเปิดหน้างานจริง เมื่อเริ่มดำเนินงานรื้อถอนไปแล้วอาจเจอปัญหาที่มองไม่เห็นเพิ่มเติม ทำให้ปริมาณงานใน BOQ อาจเพิ่มขึ้นจากที่ระบุไว้ในตอนแรก
BOQ รีโนเวทมีโอกาสที่จะปรับระหว่างทางได้บ่อย ต่างจาก BOQ งานสร้างใหม่ที่มีโอกาสปรับเปลี่ยนน้อย
จากความแตกต่างของ BOQ งานรีโนเวท และ BOQ งานสร้างใหม่ ที่ได้อธิบายไป จะเห็นได้ชัดว่างานรีโนเวทมีความซับซ้อนมากกว่าในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นระดับความละเอียดของงาน ระยะเวลาการดำเนินงาน การควบคุมงบประมาณ ความเสี่ยงจากค่าใช้จ่ายแฝง รวมถึงปริมาณงานและงบสำรองสำหรับความเสียหายที่ไม่สามารถประเมินได้จากภายนอก

ดังนั้น หากคุณมีแผนจะรีโนเวทบ้านหรืออาคาร การให้ผู้เชี่ยวชาญหรือที่ปรึกษางานก่อสร้างเชียงใหม่ช่วยตรวจสอบและจัดทำ BOQ อย่างรอบคอบตั้งแต่ต้น จะช่วยลดความเสี่ยง คุมงบได้ตรงแผน และทำให้งานรีโนเวทเดินหน้าได้อย่างมั่นใจมากขึ้น